
(อ่านแล้ว 65 ครั้ง)
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิดงาน "CHIANGRAI NORTHERN BORDER TRADE FESTIVAL" ระหว่างวันที่ 12 -16 กุมภาพันธ์ 2568 ณ ลานธรรม ลานศิลป์ ถิ่นพญามังราย ( ลาน ร.5 ) ซึ่งเป็นการคัดสรรสินค้าของดี ของเด่น ภาคเหนือมาแสดงและจำหน่ายในงาน เพื่อเชื่อมโยงตลาดและขยายโอกาสทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนภาคเหนือ
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์เห็นถึงความสำคัญในการสร้างเครือข่ายการค้าร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดความร่วมมือและสร้างความสัมพันธ์ในการค้าระหว่างประเทศ และการค้าชายแดน โดยภาคเหนือมีศักยภาพโดดเด่นในการเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน ด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา อีกทั้งยังเป็นเส้นทางสำคัญในการเชื่อมโยงกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลให้ภาคเหนือกลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการค้าระดับภูมิภาค
การเปิดเสรีทางการค้าและการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค ได้สร้างโอกาสให้ภาคเหนือสามารถพัฒนาไปสู่การเป็น "ฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ"โดยการใช้จุดแข็งด้านทุนทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และอัตลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ผสมผสานกับนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดสู่เศรษฐกิจที่สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ด้วยข้อได้เปรียบด้านพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการขนส่งสินค้า ภาคเหนือจึงมีศักยภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าชายแดนให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในแง่ของการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า การพัฒนาอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ และการส่งเสริมความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับประเทศในระยะยาว
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้จะช่วยในการส่งเสริมการค้าและการลงทุน เชื่อมโยงผู้ประกอบการจากภาคเหนือของไทยกับคู่ค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่สินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป สินค้าเชิงอัตลักษณ์ท้องถิ่น และสินค้าหัตถกรรมไทยที่มีศักยภาพ
กระทรวงพาณิชย์ มุ่งหวังว่างานนี้จะเป็นเวทีสำคัญในการขยายช่องทางการค้าทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดน และการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผู้ประกอบการสินค้าเด่นภาคเหนือ และผู้ประกอบการจากเมียนมาร์และสปป.ลาว เข้าร่วมกว่า 50 คูหา รวมถึงจะได้มีการจัดการเจรจาการค้าร่วมกัน โดยมีการเชิญผู้ซื้อและผู้ขายร่วมกิจกรรมกว่า 100 ราย