พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 และ พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภาค.1  เข้าร่วมกิจกรรม ตรวจยี่ยมสายตรวจที่สามารถจับกุมผู้ต้องหา และแนะนำแนวทางในการปฏิบัติงาน กำชับการปฏิบัติตามนโยบายของ ตร. และ ภ.1 โดยเคร่งครัด พร้อมกันนี้ได้ชมการสาธิตฝึกทบทวนการระงับเหตุบุคคลคลุ้มคลั่ง ณ สถานีตำรวจ สังกัด ภ.จว.อยุธยา ก่อนมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเริ่มต้นที่

สภ.มหาราช มีผลการปฏิบัติ 5 ราย 4 คดี ระหว่างวันที่ 12 พ.ย.67 - 5 ธ.ค.67  ยึดของกลาง ปืน 5 กระบอก ยาบ้า 5 เม็ด เครื่องกระสุนปืน 13 นัด โดยมี พ.ต.อ.วุฒิชัย สุคนธวิท ผกก.สภ.มหาราช พ.ต.ท.วัชระ ศรีเปี่ยม รอง ผกก.ป.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ต่อมาที่ สภ.บางปะหัน มีผลการปฏิบัติ 2 ราย 2 คดี ระหว่างวันที่ 26 พ.ย. -11 ธ.ค. 67 ยึดของกลางปืน 1 กระบอก, ยาบ้า 200 เม็ด โดยมี พ.ต.อ.ประเดิม จิตวัฒนาภิรมย์ ผกก.สภ.บางปะหัน พ.ต.ท.พงษ์อนันต์ ยิ้มมิ่ง รอง ผกก.ป.ฯ คณะ กต.ตร.สภ.บางปะหัน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

และ สภ.นครหลวง มีผลการปฏิบัติ 2 ราย 2 คดี ระหว่างวันที่  5 - 12 พ.ย. 67  พร้อมของกลางยึดปืน 2 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน 11 นัด ซองพกใน 2 ซอง โดยมี พ.ต.อ.ชายภาค สุวรรณชื่น ผกก.สภ.นครหลวง , พ.ต.ท.สุพล สงทอง รอง ผกก.ป.ฯ, นายอนิรุธ เวียงไชย กต.ตร.สภ.นครหลวง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 

ทางด้าน พล.ต.ต.โชคชัยงามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า ในมาตรวจการฝึกการช่วยเหลือบุคคลที่คุ้มคลั่ง หรือจิตวิกลจริต ในสภาวะวิกฤต ด้วยเครื่องมือไม้ง่ามไม้เกี่ยวประเภทต่างๆรวมถึงเครื่องมือปืนยิงแหคลุมร่างกายบุคคลเป้าหมายจะทำให้ลดการปะทะกันที่อาจจะเกิดก่อเกิดการบาดเจ็บหรือสูญเสียต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือบุคคลที่คุ้มคลั่งหรือคนวิกลจริต ที่อาจจะทำร้ายตัวประกันหรือประชาชนที่อยู่รอบข้าง และยังเป็นการ รุกรบจบเร็ว ประหยัดเวลาและประหยัดงบประมาณตลอดจนบุคลากรต่างๆในการปฏิบัติงานและสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นในการทำงานให้กับประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์หรือเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่จะทำให้ก่อเกิดประสิทธิภาพและประโยชน์ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนตลอดจนสังคมที่ต้องอยู่ร่วมกันโดยที่ไม่รู้ว่าจะมีเหตุบุคคลเป้าหมายดังกล่าวอยู่ในสังคมต่อคนกับเราซึ่งอาจจะก่อให้เกิดเหตุขึ้นทุกเวลาในชีวิตประจำวันทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดต่อไป   โดยจะให้แต่ละสถานีตำรวจในเขตพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 ฝึกฝนจนชำนาญและมีการฝึกประกวดเพื่อให้เกิดขวัญและกำลังใจและปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องโดยมีเงินรางวัลให้กับผู้ที่ชนะเลิศและรองชนะเลิศตามลำดับซึ่งจะเป็นการให้เกิดการแข่งขันทีมเข้าระงับเหตุให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและเกิดความชำนาญในการปฏิบัติงานหากเกิดเหตุการณ์จริงในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนให้สมกับคำว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์