เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
ผบช.ภ.1 แถลงผลจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ 3 คดี ยึดยาบ้า 10,460,000 เม็ด พร้อมของกลางจำนวนมาก
(อ่านแล้ว 78 ครั้ง)
Share on Google+

             

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.นฤนาท พุทไธสง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์  ผบก.ภ.จว.สระบุรี และนายทิพเมษฐ์ สังขวรรณะ ผอ.ปปส.ภาค 1  ร่วมแถลงผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 3 คดี ได้ยาบ้ารวม 10,460,000 เม็ด ดังนี้

คดีที่ 1 จับกุมยาบ้า 6 หมื่นเม็ด ทีมโกดังยาเสพติด “เอก หนองยาว” ส่งมอบกันในพื้นที่ จว.สระบุรี

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 ก.พ.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมแหล่งพักยาเสพติด “โกดังเปรม ปชน.” ได้ผู้ต้องหา 1 คน ตรวจยึดไอซ์  217 กก., ยาบ้า 560,000 เม็ด, ยาอี 3,163 เม็ด, เคตามีน 88 กรัม จับกุมได้ที่บริเวณอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางกระสอ อ.เมือง จว.นนทบุรี จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่ามีกลุ่มของนายเอกรัตน์ ซึ่งพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จว.สระบุรี เคยเดินทางมารับยาเสพติดจากแหล่งพักยาเสพติด “โกดังเปรม ปชน.” เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์กลุ่มของนายเอกรัตน์ หรือ “เอก หนองยาว” มาโดยตลอด

จนกระทั่งในวันที่ 20 มิ.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 2 นำโดย พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย ภ.จว.สระบุรี, กก.สส.ภ.จว.สิงห์บุรี, บก.ขส.บช.ปส., หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการ  หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ นำโดย พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ ผบ.ขกท.ศปก.นสศ., กองพันข่าวกรองทางทหาร นำโดย พ.อ.พูลศักดิ์ พรประเสริฐ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 นำโดยนายปริญญา ปิดเมือง นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการ  ร่วมกันจับกุมทีมโกดังยาเสพติด “เอก หนองยาว” ได้ผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

1. นายสุรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี  2. น.ส.สุทธิดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี 3. นายเอกรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี  พร้อมด้วยของกลาง (เฉพาะรายการที่สำคัญ)  ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวนประมาณ 60,000 เม็ด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักรวมประมาณ 1.91 กรัม รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเทา จำนวน 1 คัน (เป็นรถที่ใช้ขนยาเสพติดมาส่ง) รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีขาว จำนวน 1 คัน (เป็นรถที่มารับยาเสพติด) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง ตราชั่งดิจิทัล จำนวน 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป, มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา

คดีที่ 2 จับกุมยาบ้า 7.2 ล้านเม็ด ที่โกดังแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ค.68 เวลาประมาณ 06.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ ต.ราชคราม อ.บางไทร จว.พระนครศรีอยุธยา ผลการตรวจค้นพบยาบ้า 40 กระสอบ คิดเป็นจำนวนยาบ้าประมาณ 8,732,000 เม็ด และยาไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 720 กิโลกรัม และจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน  หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการป้องกันปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 1 นำโดย พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และชุดขยายผลฯ ของ  ศอ.ปส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งทราบว่า เครือข่ายของแหล่งพักยาเสพติด ต.ราชคราม ดังกล่าว ได้ไปรับยาเสพติดมาจากภาคเหนือ และมาเช่าโกดังซึ่งอยู่ที่บริเวณ  ริมถนนพหลโยธิน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ไว้เพื่อรอรับยาเสพติดเตรียมส่งต่อให้แก่ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายดังกล่าวตลอดมา

จนกระทั่ง พ.ต.อ.จักรพันธ์ โอสถากันต์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภ.1 และ พ.ต.อ.พีรพัสส์ ชูช่วย ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้สนธิกำลัง เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ริมถนนพหลโยธิน อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 7200000เม็ด และจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน ซึ่งกำลังจัดเตรียมยาบ้าเพื่อส่งให้แก่ลูกค้า  นายกมล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี  นายโชคชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี

โดยแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป” ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือในคดีนี้ต่อไป

คดีที่ 3 ตรวจยึดยาบ้า 3.2 ล้านเม็ด ในพื้นที่ ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี

คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.68 เวลาประมาณ 22.25 น. สภ.หน้าพระลาน จว.สระบุรี ได้รับแจ้งว่า พบรถยนต์แบบเอนกประสงค์ (SUV) ยี่ห้อเชฟโรเลต สีแดง เกิดอุบัติเหตุชนกับขอบทางบริเวณริมถนนสายหน้าพระลาน-หนองจาน ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จว.สระบุรี ภายในรถมีสิ่งของคล้าย ยาเสพติด เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จึงได้เข้าทำการตรวจสอบและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานภายในรถยนต์ ผลการตรวจสอบได้ทำการตรวจยึดสิ่งของซึ่งอยู่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว (เฉพาะรายการที่สำคัญ) ดังนี้ 1) ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 8 กระสอบ รวมประมาณ 3,200,000 เม็ด  2) อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ COLT จำนวน 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน จำนวน 10 นัด 3) โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง  คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งรัดทำการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้กระทำความผิด ผู้สมคบ สนับสนุน และช่วยเหลือโดยเร่งด่วนต่อไป

พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 กล่าวว่า  ตำรวจภูธรภาค 1 ได้เร่งรัดดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 ถึง 17 มิ.ย.68 ได้ทำการจับกุมยาเสพติดรวมจำนวน 17,572 คดี ผู้ต้องหารวม 17,601 คน ของกลาง เป็นยาบ้ารวม 128 ล้านเม็ดเศษ, ไอซ์รวม 4,337 กก., เคตามีนรวม 245 กก. และของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการ และได้ตรวจยึดทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 740 ล้านบาทเศษ       

ตำรวจภูธรภาค 1 จะได้สืบสวนปราบปราม และ X-ray พื้นที่ ไม่ให้เป็นแหล่งพักคอย รวมทั้ง จะเข้มงวดกวดขันสกัดกั้น ตัดตอนการลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ตอนในอย่างต่อเนื่องต่อไป และใคร่ขอประชาสัมพันธ์พี่น้องประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติด  สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

 

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ