เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567
ผู้เสียหายรวมตัวแจ้งความ อดีตนักโทษฉ้อโกง ออกจากคุกมาทำงานบริษัทน้ำปลาร้าชื่อดังที่ให้โอกาสกลับตัว แต่ไม่ทิ้งลายดัดหลังเจ้าของบริษัทโกงไปร่วม 6 แสน แถมยืมรถคนรู้จักเอาไปขายหลายคัน
(อ่านแล้ว 243 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันนี้ 22 ต.ค.2565 เวลา 13.00 น. นางสุดใจ รอดชีวะ อายุ76 เจ้าของร้านสุดใจไก่ย่าง แชมป์ส้มตำเจ้าแรกแห่งประเทศไทย พร้อมผู้เสียหายอีกสี่คน เดินทางมาแจ้งความแก่ ร.ต.อ.ชนิกานต์ เสถียรไชยกิจ รอง สว.สอบสวน สภ.คูคต กรณีนายสุทธา หรือนก อ่วมเมี่ยง ลูกจ้างที่ทำโรงงานน้ำปลาร้าโกงเงิน และ แอบนำทรัพย์สินหลายรายการไปขาย

นางสุดใจ กล่าวว่า นายสุทธา นั้นมาสมัครงานประมาณปี2564 คนเองเห็นหน่วยก้านดีจึงให้มาช่วยงานกิจการโรงงานน้ำปลาร้าแบรนด์แม่สุดใจ ที่ จ.กำแพงเพชร โดยให้เป็นผู้ประสานงานด้านการขาย ซึ่งนายนก ก็ได้ใช้อุบาย ในการกลอก นางสุดใจ ด้วยวิธีการกล่าวอ้างว่ามีผู้สั่งน้ำปลาร้ากับตนเองหลายเจ้า ให้นางสุดใจ สั่งผลิตน้ำปลาร้า 2 พันลัง ตกลังละ15 ขวด เท่ากับ 3 หมื่นขวด พอนำส่งไปขายก็ไม่นำเงินมาให้บริษัท เมื่อนางสุดใจ ได้ถามถึงเงินค่าสินค้า นายนกจะพูดจาหลบหลีกว่าทางคู่ค้ายังไม่โอนเงินมาให้ นอกจากนี้นายนกยังได้กล่าวอ้างติดต่อเครื่องผลิตน้ำปลาร้ารุ่นใหม่ให้นางสุดใจ มีการโอนเงินมัดจำแต่ก็เงียบไปเมื่อนางสุดใจ จะขอคุยกับเจ้าของบริษัทขายเครื่องทำน้ำปลาร้า นายนกก็บ่ายเบี่ยงต่างๆนาๆ และนายนก ยังได้กล่าวอ้างชื่อบุคคลที่ดูน่าเชื่อถือในสังคมว่ามาเป็นคู่ค้าน้ำปลาร้า จะช่วยทำการตลาดแต่ขอสปอนเซอร์ค่าทำและติดตั้งป้ายไวนิล จำนวน 65,000 บาท หลังนางสุดใจโอนเงินไป นายนกก็หายเงียบ และขอลาออกจากบริษัท 

นางสุดใจ จึงเอะใจและปรึกษาลูกชายจนสืบทราบว่า ที่ผ่านมาไม่มีการซื้อขายใดๆกับบริษัทคู่ค้า รวมทั้งสั่งซื้อเครื่องจักร ส่วนน้ำปลาร้า3หมื่นขวดก็ไม่ทราบว่านายนกเอาไปทำอะไร แต่ขณะนี้ยอดเงินที่ตัวเองสูญเสียที่โอนให้นายนก รวมแล้วประมาณ 6 แสนบาท

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่มาแจ้งความนายนกอีก 4 คน ซึ่งแต่ละคนล้วนถูกนายนกหลอกเอาทรัพย์สินไปขาย รายแรก  นาย แก่น ( ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ถูกยืมรถกระบะขนของยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน โดยนายนกอ้างว่าจะไปทำธุระต่างจังหวัด 3 วัน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ย.แล้วก็เงียบหายเมือผู้เสียหายทวงถามก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมาจนบัดนี้

รายที่สอง นาย อ้อด ( ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ได้ไหว้วานให้นายนกเอารถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ด ไปซ่อม นายนกก็เอาไปซ่อมอู่ย่านนิมิตรใหม่ แล้วก็เอารถไปขายโดยไม่แจ้งนายอ้อด จากเหตุการณ์นี้ นายอ้อดได้ถามไปว่ารถที่ให้เอาไปซ่อมได้หรือยัง นายนกก็บ่ายเบี่ยงว่ายังซ่อมไม่เสร็จ โดยระยะเวลาผ่านไปประมาณ 3 เดือน ซึ่งเมื่อผู้เสียหายไปสืบทราบจากการแกะรอยไปที่อู่ซ่อมรถ และสอบถามเจ้าของอู่ได้บอกว่า นายนกคนที่เอารถมาซ่อมได้ทำการซื้อขายรถคันดังกล่าวไปแล้วโดยมีผู้ซื้อมาซื้อถึงที่อู่เลย 

รายที่สาม น.ส.พั้นซ์ ( ขอสวนขื่อและนามสกุลจริง) ถูกนายนกชวนให้เอารถตู้ยี่ห้อโตโยต้า ที่กำลังผ่อนอยู่มาขายต่อญาติแฟนตัวเองโดยจะให้ญาติแฟนทำการผ่อนต่อ น.ส.พั้นซ์ก็เชื่อใจเพราะเป็นคนรู้จักกันจึงให้ไปขาย เมื่อเวลาผ่านไปไฟแนนซ์ได้มีหนังสือทวงถามมายังผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้ถามไปยังนายนก ซึ่งนายนก ได้บอกเดี่ยวจะถามญาติแฟนให้ ก่อนจะเงียบหายไปเป็นระยะเวลากว่าสามเดือน น.ส.พั้นซ์ จึงคาดว่ารถตู้ของตนเองคงถูกนาย นก ขายทอดตลาดมืดไปแล้ว เพราะรถยังติดไฟแนนซ์อยู่ ส่วนรายสุดท้าย นาย ไก่ (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง)ได้ถูกนายนกยืมเงินไป 1 หมื่นบาท โดยอ้างว่าจะนำไปซื้อรถยนต์มาขับแล้วก็เงียบหายเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตอนแรกก็ไม่มีใครรู้ว่าถูกนายนก หลอกลวง จนผู้เสียหายทั้งหมดนั้นที่เป็นเพื่อนในเครือกลุ่มเดียวกัน ต่างคนได้มานั่งคุยกันจึงเริ่มเอะใจว่าพวกตนถูกหลอก ก่อนทำการสืบทราบความจริงว่าทรัพย์ที่ถูกยืมไปคงถูกนายนกได้ขายไปหมดแล้ว จึงเดินทางร่วมกันมาแจ้งความดังกล่าว ในขณะเดียวกันยังสืบทราบว่าก่อนหน้านี้มีผู้เสียหายที่ถูกนายนกหลอกแบบเดียวกันแจ้งความไว้แล้วอีกสามราย

ผู้สื่อข่าวได้รายงานต่อว่า นางสุดใจได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ตัวเองรู้ประวัตินายนกว่าเพิ่งออกจากคุกในคดีฉ้อโกง แต่ด้วยความอยากให้โอกาสคนคิดว่าเขาคงกลับตัวกลับใจหลังพ้นโทษ จึงให้มาทำงานด้วยไม่คิดว่าโจรก็ยังคงสันดานเป็นโจรอยู่วันยังค่ำ 

 

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ