เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567
ลูกจ้างแสบแอบปลอมเอกสารตั้งบริษัทใหม่เจ้าของเข้าพบอัยการเรียก 50 ล้าน
(อ่านแล้ว 121 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันนี้ 20 ก.พ. 66 น.ส ช่อฉัตร โตชูวงศ์  กรรมการผู้จัดการบริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ตุลา โชติภักดี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อยื่นฟ้อง นางสาวสุพัตรา นามลักษณ์  จำเลย เพิ่มอีก 1 คดี ในข้อหา ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารสิทธิ์และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม โดยก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ นางสาวสุพัตรา นามลักษณ์ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทราก่อนหน้านี้

โดยวันนี้พนักงานอัยการจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้นำตัว นางสาวสุพัตรา ผู้ประกอบการขายน้ำยางพาราผสมสารผสมเพิ่ม ไปฟ้องต่อศาลจังหวัดเชิงเทรา ในข้อหาลักทรัพย์ และปลอมเอกสาร ตามคำร้องของผู้เสียหาย เพื่อขอให้ศาลบังคับจำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เพราะได้รับความเสียหายในทางทรัพย์สินอันเนื่องมาจากการกระทำผิดของจำเลยทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์  2563 นางสาวสุพัตรา  นามลักษณ์ อดีตกรรมการฯ ของ บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด ได้ลักลอบถอนเงินของบริษัทฯ ออกจากบัญชี บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด และน.ส.สุพัตรา นามลักษณ์ ได้ปลอมหนังสือ ของบริษัทฯ ดำเนินการปิดบัญชีออมทรัพย์ และบัญชีกระแสรายวัน ของธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาบิ๊กซี ฉะเชิงเทรา2  เพื่อนำเงินไปใช้ส่วนตัว ทำให้ บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด เกิดความเสียหาย โดยก่อนหน้านี้อัยการได้ฟ้อง นางสาวสุพัตรา นามลักษณ์ ในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง  หมายเลขคดีดำที่ อ.2164/2564  โดยมี บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด ขอเข้าเป็นโจทย์ร่วม กับพนักงานอัยการ และเรียกร้องเงินในคดีแพ่งเป็นจำนวน 50 ล้านบาท โดยศาลจะได้นัดสืบพยานโจทก์ พยานจำเลย กลางปี 2566 นี้  กระทั่งบริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด ได้สืบทราบว่านางสาวสุพัตรา ได้ลักทรัพย์ ปลอมเอกสารสิทธิ์และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม จึงเดินทางเข้าแจ้งความเพิ่มอีก 1 คดี จนอัยการได้แจ้งสิทธิเรียกร้องร้องค่าสินไหมทดแทนในวันนี้  

 

ซึ่งทั้งสองคดีนี้เกิดขึ้นจากกรณีที่ นางสาวสุพัตรา นามลักษณ์ เคยเป็นอดีตกรรมการฯ บริษัท เอส.พี. ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด คู่กับ นางสาวช่อฉัตร โตชูวงศ์    ต่อมาเมื่อปลายปี 2562 ถึงต้นปี 2563  นางสาวสุพัตรา นามลักษณ์ ได้แอบไปจัดตั้งบริษัทใหม่ คือ บริษัท เอส.พี.รุ่งเรืองรับเบอร์ แอน คอนสตรัคชั่น จำกัด  ตั้งใจให้มีชื่อบริษัทคล้ายกันเพื่อให้ลูกค้าหลงผิด และได้แอบนำสูตรและวัตถุดิบ ที่ใช้ในการผลิต คือ น้ำยางข้นและสารเคมีของ บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด ซึ่งนางสาวสุพัตรา นามลักษณ์ เป็นกรรมการฯ อยู่ในขณะนั้น  โดยลักลอบผลิตน้ำยางพาราผสมสารผสมเพิ่ม และส่งทดสอบ กับทางราชการ  ทั้งกรมทางหลวง และกระทรวงเกษตรจนกระทั่งได้รับใบรับรองจากทางราชการ ก่อนนำไปจำหน่ายแข่งกับ บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด อีกทั้งได้ปลอมเอกสารของ บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด เพื่อเบิกเงินของบริษัทฯ ไปใช้ส่วนตัว ทำให้บริษัท เอส.พี.ก่อสร้างรุ่งเรือง จำกัด เสียหาย จนกระทั้งปัจจุบัน อัยการฟ้องนางสาวสุพัตรา นามลักษณ์คดี ต่อศาลทั้งสองคดีดังกล่าวแล้ว

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ