วันนี้ 7 มี.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 13 / 5 หมู่7 ซอยหอมนรินทร์ ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี นายรัชพล อุ่มวงศ์ปภา อายุ 57 ปี และ นางณิชชาภัทร อุ่มวงศ์ประภา ภรรยา ยืนรอให้สัมภาษณ์ถึงกรณี เมื่อเวลาประมาณ 23.05 น.ของวันที่ 31 ธ.ค.2565 กลุ่มวัยรุ่นยกพวกมานับสิบคนพกปืน พกมีด ปาก้อนหินใส่นายรัชพล ก่อนเจ้าตัวจะหลบหนีเข้ามาในบ้าน แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวก็ได้หยิบก้อนหิน ขวดแก้วปาเข้าใส่กำแพง ประตู บ้านและ ข้าวของพังเสียหาย ซึ่งสองสามีภรรยาได้เดินทางไปแจ้งความกับ พ.ต.ท.สุรชัย เปรมแจ่ม พนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา จนบัดนี้ไม่มีความคืบหน้า

นายรัชพล อุ่มวงศ์ปภา อายุ 57 ปี ได้เล่าว่า ตนเองมีอาชีพค้าขายผลไม้ ส่วนมากไม่ได้สุงสิงกับใครแต่ก็รู้จักคนในละแวกเพราะอยู่มานานเป็นคนเก่าแก่ในพื้นที่ โดยบ้านตัวเองเป็นบ้านหลังแรกของซอย ถัดไปประมาณ 100 เมตร เป็นบ้านของนายแบงค์  อายุประมาณ 40 ปี  ซึ่งปกติเวลาผ่านไปมาก็ทักทายกัน โดยนายแบงค์ มีลูกชายอายุ 17-18 ปี มักจะขับขี่รถจักรยานยนต์เสียงดัง ผ่านเข้าออกซอย ตนเองก็บอกกล่าวพูดเตือนอยู่บ่อยๆ ในฐานะลูกหลาน และบ้านนายแบงค์ก็จะกินเหล้าร้องเพลงกันอยู่บ่อยๆ จนวันหนึ่งลูกชาย นายแบงค์และกลุ่มเพื่อนๆ ขับขี่รถยานยนต์เสียงดังตนเองจึงได้พูดคุยกับนายแบงค์ ผู้เป็นพ่อ ซึ่งก็เหมือนรับทราบจะช่วยตักเตือน บอกกล่าว แต่พอตกเย็นนายแบงค์พร้อมลูกชายก็เดินมาอาละวาดตนเองที่บ้าน แต่ก็สามารถพูดปรับความเข้าใจกันขอโทษขอโพยไปรอบหนึ่ง จนกระทั่งมาก่อนวันเกิดเหตุล่าสุด ตนเองก็ได้บอกกับลูกชายนายแบงค์ว่าอย่าขับรถเสียงดัง ชาวบ้านเขาเดือดร้อนบางทีเป็นเวลายามวิกาลแล้ว พอตกกลางคืนประมาณ 23.05 นาที นายแบงค์ พร้อมลูกชายและกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน ได้เดินมาหาเรื่องตนเองถึงหน้าบ้าน เท่าที่ตนเองสังเกตเห็นว่าพวกนายแบงค์  พกอาวุธปืน ส่วนลูกชายนายแบงค์พกอาวุธมีดดาบเล่มยาวประมาณ 60 เซนติเมตร มาด้วย และปรี่เข้ามาจะทำร้ายตนเองที่กำลังยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ตนเองได้เอาขวดที่ตกอยู่ปาเข้าใส่  จนภรรยาตนเองที่ยืนอยู่หลังประตูบ้านก็ตะโกนให้ตนเองหนีเข้าบ้าน เมื่อตนเองหนีเข้าบ้าน กลุ่มคนก็ยืนกันอยู่ที่หน้าประตูก็ตะโกนด่าตนเองแบบเสียๆหายๆ ก่อนจะคว้าเอาก้อนหินที่วางอยู่กำแพงหน้าบ้านปาเข้าใส่ในบ้านทั้ง กำแพง ประตู จนปาขึ้นมาด้านบนบ้านจนลูกแก้วเสา แตก ตู้ไปรษณีย์แตก บุบ นอกจากนี้ภรรยาตนเองก็เห็นว่านายแบงค์ได้ชักปืนจ่อเข้ามาภายในบ้านด้วย ก่อนที่คนกลุ่มดังกล่าวจะกลับไป

ตนเองและภรรยาก็เดินทางไปแจ้งความในคืนเดียวกัน ที่ สภ.ลำลูกกา ซึ่งในวันที่ไปแจ้งความพนักงานสอบสวนก็พูดวนไปวนมาถามตนเองกับภรรยาว่า มาแจ้งความไม่กลัวเขามาทำร้ายหรือ ตนเองก็ตอบว่าไม่กลัวเพราะเราเป็นฝ่ายโดนรังแก พนักงานสอบสวนยังบอกอีกว่าคดีต้องแยกเป็นศาลเด็กศาลผู้ใหญ่ เขาก็เตรียมจะโยกย้าย โดยช่วงแรกพนักงานสอบสวนก็นัดให้ตนเองโทรไปวันนั้น วันนี้  พอตนเองโทรไปสองสามครั้งพนักงานสอบสวนก็บอกติดรับเสด็จ ติดภารกิจ จนเลยเวลานัด ตนเองก็ให้ลูกเขยโทรไป จนได้รับคำตอบจากพนักงานสอบสวนว่ากำลังจะย้ายแล้ว และในภายหลังทั้งตนเองและลูกเขยโทรไปก็ไม่มีการรับสายอีก จนปัจจุบันผ่านมาร่วม 3 เดือน ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ลุกเขยตนเองจึงบอกให้ร้องไปทางสื่อให้ช่วยเป็นกระบอกเสียง พร้อมได้โพสต์คลิปกล้องวงจรปิด ภาพเหตุการณ์ จนกลายเป็นข่าวดังกล่าว ตนเองเพียงอยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ช่วยดำเนินการตามกฏหมาย กับกลุ่มบุคคลที่ตนเองได้แจ้งความไว้ เพราะตนเองและครอบครัวก็กลัว และกังวลเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

 ภาพ / ข่าว คริส อินดี้