(อ่านแล้ว 116 ครั้ง)
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้แต่งตั้งให้ตนเป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วนกรณีที่พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ท้า พล.อ.ประวิตร ขึ้นเวทีดีเบตแสดงวิสัยทัศน์แข่งว่า พล.อ.ประวิตร มีเจตจำนงอย่างชัดเจนในการลงสมัครเป็นนายกรัฐมนตรี และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งท่านก็พูดชัดเจนว่าไม่รับดีเบตเพราะเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ท่านเป็นคนทำงานเป็น และตนก็เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศต้องการนายกรัฐมนตรีที่ทำงานมากกว่าพูด หรือดีแต่พูด
"ผมขอฝากไปสุภาษิตจีนที่กล่าวไว้ว่า จะฆ่าไก่ ใยต้องใช้มีดฆ่าโค ซึ่งไม่จำเป็นเลยว่า พล.อ.ประวิตร จะต้องมาดีเบตกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ถ้าจะดีเบตกันจริง ๆ เพียงแค่ผมคนเดียวก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปถึง พล.อ.ประวิตร"
นายสามารถ กล่าวต่อว่า ในอดีตเราก็เคยมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นคนไม่ค่อยพูดมาแล้ว เช่น พณฯท่าน พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มีตำแหน่งมากมาย แต่ท่านเป็นคนไม่พูด จนได้รับฉายาว่า เตมีย์ใบ้ เช่นเดียวกับพล.อ.ประวิตร ท่านเป็นทหารและพูดไม่เก่ง แต่ท่านมีประสบการณ์ในการทำงานมาอย่างยาวนาน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของชาติ คือ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
"ผมคิดว่าว่าประชาชนคงจำกันได้ว่า พล.อ.ประวิตร เคยผ่านงานในการรักษาการนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ในช่วงที่ปฎิบัติหน้าที่นั้น พล.อ.ประวิตร สามารถประสานงานได้อย่างไร้รอยต่อ ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งเวลานั้นผมมั่นใจว่าคนไทยทุกคนจับตามองว่าท่านจะทำงานได้หรือไม่ แต่ท่านก็สามารถพา กทม.ผ่านวิกฤตน้ำท่วมไปได้ ซึ่งท่านลงพื้นที่ไปติดตามเฝ้าระวัง และแก้ไขปัญหาไม่ให้น้ำท่วม กทม.ได้อย่างดีเยี่ยม ผมขอฝากไปยังประชาชนว่า พล.อ.ประวิตร ก็ทำงานได้ ทำงานเป็น ได้สัมผัสแล้วจะรัก เหมือนผมที่รัก พลเอก ประวิตร เหมือนพ่อแท้ๆ และ ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นกับ ทุกคนในพรรคพลังประชารัฐ ที่รักลุงป้อม และ พร้อมสนับสนุนลุงป้อม เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30