เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567
ชื่นมื่น คุณอานนท์ แก้วมโนรมย์ ประธานผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา จัดงานอวยพรวันเกิดผู้บริหารพิพิธภัณฑ์และทีมงาน
(อ่านแล้ว 516 ครั้ง)
Share on Google+

 

วันที่ 13 ก.ย.2565 เวลา 18.00 น. ที่อาคารอเนกประสงค์พิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา สาขาบางเลน ต.บางเลน อ.บางเลน จว.นครปฐม คุณอานนท์ แก้วมโนรมย์ ประธานผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา ทั้ง 3 แห่ง เป็นประธานจัดงานอวยพรวันคล้ายวันเกิดของ คุณสุภาพร แพบัว รองประธานผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา ที่เกิดในวันนี้ และ ร่วมจัดงานวันเกิดย้อนหลังและล่วงหน้าให้กับ โหราฯธนานันท์ เทพศรียันตรา หรือ ทนง ทองตุ๋ย ผู้ประกอบพิธีกรรมของพิพิธภัณฑ์ฯ ที่ครบรอบวันคล้ายวันเกิดเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา และอีกท่านคือ นายพันธ์กร เภาเกาะ เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ฯ ที่ครบรอบวันคล้ายวันเกิดในวันที่ 14 ก.ย.นี้ โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีกิจกรรมมากมาย ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติทั้งพนักงานของพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตราทั้ง 3 สาขา และ ผู้มาร่วมอวยพร ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวได้ใช้ธีมการแต่งชุดไทย ชุดแฟนซี เข้าร่วมงาน

และเนื่องในวันอันเป็นศุภฤกษ์มงคลนี้ นายคริส พรเพ็ชรรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวเจาะเกราะนิวส์ และ สำนักข่าวไทยนิวส์เร็คคอร์ด บรรณาธิการข่าว นสพ.ไทยเอสพีเอสนิวส์ ได้เดินทางร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิดของทั้ง 3 ท่าน พร้อมกันนี้ได้นำบัตรที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ มอบให้กับ โหราฯธนานันท์ เทพศรียันตรา หรือ อาจารย์ทนง ทองตุ๋ย ที่ได้ให้เกียรติร่วมเป็นคณะที่ปรึกษาของ สำนักข่าวเจาะเกราะนิวส์ และ สำนักข่าวไทยนิวส์เร็คคอร์ด ซึ่งอาจารย์ทนง ทองตุ๋ย นั้นเป็นอดีตนักข่าวมากฝีมือ และยังถือเป็นหนึ่งในสองผู้เป็นครูและนำทางในวงการสื่อมวลชนให้กับนายคริส อีกด้วย 

 

นอกจากนี้ นายคริส พรเพ็ชรรัตน์ ได้มอบเพลงท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ ซึ่งนายคริส ได้เป็นผู้ประพันธ์ คำร้อง / ทำนอง โดยมีนายศุภชัย แพงน้อย หรือเสี่ยตุ๋ย ผู้บริหารโรงเรียนสอนดนตรีและภาษา NEW&NICE เป็นผู้ผลิตดนตรีและมิกซ์เสียง ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ KPP RECORD มอบให้กับ คุณอานนท์ แก้วมโนรมย์ ประธานผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา เพื่อใช้ในการเปิดสักการะบูชาองค์เทพท้าวเวสสุวรรณ และเพื่อประโยชน์อื่นๆ ต่อไป

 

พิพิธภัณฑ์เทพศรียันตรา เป็นพิพิธภัณฑ์มหาเทพแห่งพราหม์ ฮินดู เป็นที่ประดิษฐานของ พระพิฆเนศปางศรีชูบา ดิษติ กานาปติ ปาง 51 ตา หรือ ปางที่ 33 ปางแห่งมหาอํานาจและวาสนา ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.2543  T.Bhasskaradoss  ศิลปินชาวอินเดีย ได้บรรจงวาดและร่างแบบของพระพิฆเนศปางนี้ตามความฝันของตนเอง สิ่งที่น่าประหลาดใจภายหลังการร่างแบบเพียงสามวันเขาได้รับการติดต่อจาก  Dr. Velmurugan ให้ไปพบเพื่อที่จะให้ออกแบบ Siddhar’s Manivizha  เมื่อดูภาพยิ่งทำให้ประหลาดใจเพราะปรากฏว่าภาพที่ต้องการให้ดูเป็นภาพที่คล้ายจากความฝันและเป็นภาพของ สวามี Sri Paramjothi  ผู้ซึ่งมาจาก Kuduvilarpatti ใกล้กับเมือง Theni หลังจากที่ได้เห็นภาพแล้วเขาก็ได้เล่าเรื่องความฝันให้ Dr. Velmurugan ฟังจากความบังเอิญของความฝันและภาพ ทั้งคู่จึงไปที่วัดหรืออาราม จึงได้ทราบจากสวามีว่า ภาพที่ปรากฏคือ เทพนามว่า “ศรีชูบา ดิษติ กานาปติ  Sir Shuba Drishti Ganapathy”T.Bhasskaradoss เป็นผู้เชี่ยวชาญงานศิลปะประติมากรรม โดยเฉพาะงานปั้นเทวรูปของศาสนาฮินดู ถึงขนาดอุทิศตนเองใช้ชีวิตอยู่ในวัดชิตวารารัม (Chidladaram) เพื่อสร้างงานศิลปะในการปั้นเทวรูปปางต่างๆ ภายในวัดแห่งนี้ และที่สร้างชื่อเสียงให้กับ T.Bhasskaradoss คืองานปั้นรูปพระศิวะปางนาฏราชองค์ใหญ่ที่สุดในอินเดียใต้มาแล้ว เขาเปิดเผยว่า พระพิฆเนศปาง 51 ตา อุบัติมาตามคำทำนายของ มหาฤาษีซึ่งมีชื่อว่า อากัลป์ติยา เมื่อ 5100 ปีที่แล้ว ในคัมภีร์ใบลาน ของวัดชิตวารารัมได้บันทึกไว้ว่า พระฤๅษีองค์นี้ คืออาจารย์ของ พระแม่อุมาเทวี ได้ทำนายก่อนที่ตนเองจะละสังขารว่า หลัง 5100 ปี ไปแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองจะบังเกิดขึ้นไปทั่วโลก

 

 

ต่อมาพิพิธภัณฑ์เทพศรียันตราเทวาลัยได้สร้างสรรค์ผลงาน เพื่อนำมาเผยแผ่ในประเทศไทยเป็นครั้งแรก โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “พระพิฆเนศปางมงคลจักรวาล 51 ตา” หรือ ปางที่ 33  พร้อมจดลิขสิทธิ์ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเนื่องจากรูปแบบของพระพิฆเนศปางนี้เป็นที่น่าเลื่อมใสศรัทธาของมหาชนที่นิยมบูชาเทพ เป็นพระพิฆเนศที่รวมพลังแห่งมหาเทพมารดาผู้เป็นใหญ่บนสรวงสวรรค์ถึง 5 พระองค์ด้วยกัน อาทิพลังแห่งพระแม่ทุรคา คือ ตรีศูลในพระหัตถ์ขวา /พลังแห่งพระแม่คงคา คือ หม้อน้ำที่อยู่บนพระเศียร / พลังแห่งพระแม่อุมา คือ มีดดาบในพระหัตถ์ขวาที่ 2 / พลังแห่งพระแม่ลักษมี คือ บัลลังก์ดอกบัว /  พลังแห่งพระแม่ตีรีปูราซุนบารี คือ งูจงอาง 9 ตัว แผ่พังพานเป็นรัศมีบนพระเศียร และยังมีพลังแห่งเทพบิดา ซึ่งถือเป็นพลังหลักของพระพิฆเนศ ปางนี้โดยเฉพาะ อาทิ พลังแห่งพระศิวะ คือ พระเนตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ทั้ง 51 ดวง  / พลังแห่งพระนารายณ์ คือ กระบอง ในพระหัตถ์ซ้ายที่ 2 / พลังแห่งพระพรหม คือ พระสังข์ ในพระหัตถ์ซ้ายที่ 3 / และยังมีพลังจากศาสตราวุธต่างๆด้วย

ซึ่งเชื่อกันว่าถ้าบูชา ท่านจะประทานพรให้คนผู้นั้นพบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จในชีวิตและอีกมากมายหลประการ ทำให้บางบ้านของชาวอินเดียต้องบูชาพระพิฆเนศปางศรีชูบา ดิษติ กานาปติ Sri Shuba Drishti Ganapathy  เพราะเชื่อกันว่าพระองค์มีพลังอำนาจในการขจัดปัดเป่าความอิจฉาริษยา ทำให้อารมณ์อิจฉาริษยาของคนเบาลงจนกลายเป็นไม่มีอารมณ์อิจฉาเกิดขึ้น 

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ