เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
พฤ วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567
พรรคพลังเพื่อไทย เรียกประชุมผู้บริหารพรรคพร้อมชูนโยบายด่วนเตรียมลงศึกเลือกตั้ง เน้นให้โอกาส และเสริมพลังใจกลุ่มคนทำงาน 6 อาชีพ
(อ่านแล้ว 213 ครั้ง)
Share on Google+

 

 

วันนี้ 20 ก.ย.2565 เวลา 12.00 น.ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการและผู้บริหารพรรคพร้อมแถลงข่าวเปิดตัวชูนโยบายพรรค พร้อมในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยมี ดร. ปภาดา ถาวรเศรษฐ์ เลขาธิการพรรค / ดร. มิตร มิตระกาญจณ์ ประธานยุทธ์ศาสตร์ และ รองหัวหน้าพรรคประกอบด้วย นาย กิตินันต์ หาญจิตรนภัสสร / นาย อัถพล สิงห์ธนฒน์ / นาย อดุล นิลพัฒน์  / ผ.ศ.ชูชีพ เยาว์พัฒน์ / ร.ต.ฑิฆัมพร เหมรักษ์ / นางสาว เอกศวี ศิริวานิช นายทะเบียนพรรครวมถึงสมาชิกเข้าร่วมประชุมครั้งนี้

นายเอกวรพงศ์ อำนวยทรัพย์ หัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ได้เรียกประชุมผู้บริหารพรรคทุกท่าน เพื่อซักซ้อมความเข้าใจพร้อมแถลงข่าวนโยบายเร่งด่วน 3 ข้อ เนื่องจากใกล้วันเลือกตั้งเข้ามาทุกที เรื่องแรกจะเป็นเบี้ยผู้สูงอายุ ปรับเปลี่ยนสถานะ อสม.ให้เป็นลูกจ้างของรัฐ ผลักดันให้นักเรียนนักศึกษาที่ฝึกงานมีรายได้

โดยนโยบายพรรคจะมีสามด้านประกอบด้วยด้านการเมือง คือการส่งเสริมคนรุ่นใหม่เข้ามาเวทีการเมือง  ส่งเสริมสตรีให้มีบทบาทในสังคม ด้านสังคมเรามีนโยบายช่วยเหลือและเพิ่มโอกาสให้คนด้อยโอกาสในสังคม รวมไปถึงผู้ต้องขังพ้นโทษ โดยการจะส่งบริษัทที่ร่วมโครงการให้เข้าไปสอนผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษและเมื่อพ้นโทษก็สามารถมาร่วมงานกับทางบริษัท

 

 

ผศ.ชูชีพ เยาวพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังเพื่อไทย และเป็นอดีต รองคณบดดีฝ่ายกิจการนักศึกษาวิศวะกรรม ม.ราชมงคลตะวันออกอุเทนถวาย กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากดังที่ท่านหัวหน้าพรรคได้กล่าวมา ทางพรรคต้องการการยกระดับคุณภาพของคน 6 กลุ่มอาชีพ อาทิกลุ่มเกษตรกร ในการหามาตรการลดต้นทุนการผลิต ช่วยกลุ่มผู้สูงอายุ ที่จากเดิมรัฐบาลช่วยเหลือเบื้อชรา โดยให้ตามเรทเป็นช่วงอายุ ทางพรรคอยากเข้าไปผลักดันให้เกิดความเท่าเทียม สำหรับคนอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปจะต้องได้เท่ากันหมดไม่เหลื่อมล้ำ กลุ่มอาสาสมัครสาธารณะสุขชุมชน หมู่บ้าน หรือ อสม. เพราะเป็นกลุ่มอาชีพที่ได้รับความเสี่ยงต้องออกไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาในการแพร่ระยบาดของไวรัสโควิด19 เช่นการตรวจโควิด19 เป็นการช่วยเหลือแพทย์ พยาบาลในการคัดกรองผู้ป่วยแม้จะได้ค่าตอบแทนจากรัฐบาลแต่ก็คงไม่เพียงพอ ทางพรรคจึงอยากผลักดันให้ภาครัฐเข้ามาเยียวยา ดูแลกลุ่ม อสม.นี้ ให้มีสวัสดิการที่ดีขึ้นให้เหมือนเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผลักดันให้กลุ่ม อสม.เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่รัฐ ให้เขามีกำลังใจมากขึ้น มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนมากขึ้น กลุ่มนักเรียนนิสิตนักศึกษา ที่ออกไปฝึกงานบางมหาวิทยาลัยทำคอนแทคกับบริษัทกับเอกชนก็จะมีเบี้ยเลี้ยง มหาวิทยาลัยไหนที่ไม่ได้ทำคอนแทคไว้นักศึกษาก็จะไม่มีเบี้ยเลี้ยงตกเป็นภาระผู้ปกครองต้องหาเงินให้บุตรหลานไปทำงานให้คนอื่นฟรี ด้วยสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ทางพรรคจึงอยากผลักดันในเรื่องนี้ให้เกิดความเท่าเทียมกันทุกมหาวิทยาลัย ให้นิสิต นักศึกษาที่ออกไปฝึกงานได้เบี้ยเลี้ยงกันทุกคน

ด.ต.มิตร มิตรการ ประธานยุทธศาตร์พรรคฯ กล่าวว่าทั้งหมดเป็นไปตามแนวทางในเรื่องอุดมการณ์พรรคที่มีเจตนารมณ์ในการเพิ่มและช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส ส่วนแนวทางในการขับเคลื่อนพรรคคือสิ่งที่ทางพรรคดำเนินการปฏิบัติประชาชนสามารถจับต้องได้ หมายถึงในสิ่งที่ทางพรรคชูนโยบายใดใดก็ตามเราจะทุ่มเท มุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายให้ประชาชนมองเห็นเป็นรูปธรรมทั้งในขณะนี้และในอนาคต

 

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ