(อ่านแล้ว 327 ครั้ง)
วันที่ 23 ก.ย.2565 พ.ต.ท.คเชนทร์ บุญทวี รอง ผกก.จร. พ.ต.ต.ยุทธชัย สุดเสน่ห์ สว.จร. สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมกำลังตำรวจจราจร สภ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมกับเทศกิจเทศบาลนครฯ สนองนโยบายกวดขันรถจอดในเขตห้ามจอดรถ( ขาว-แดง ) ในบริเวณทางข้ามหรือทางม้าลาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหากับประชาชนใช้ทางข้ามไม่สะดวก ปลอดภัย การจราจรติดขัด การจอดรถแท็กซี่บริเวณตลาดวิบูลย์ศรี จึงทำเครื่องกีดขวางวางบนถนนห้ามรถจอดหน้าร้าน บริเวณวงเวียนท้ายบ้าน พร้อมทั้ง ประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการร้านค้า ห้ามตั้งวางโตะ-เก้าอี้หรือสิ่งของบนพื้นผิวการจราจรโดยผิดกฎหมาย และจะทำตามกฏหมายอย่างจริงจัง
พ.ต.ต.ยุทธชัย สุดเสน่ห์ สว.จร. สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาอุบัติภัยจากการจราจรเพิ่มสูงขึ้นทั้งด้านปริมาณและความรุนแรง สำหรับประเทศไทยอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุการบาดเจ็บ พิการและเสียชีวิตที่มีแนวโน้มสูงขึ้นทุกปี ในปีๆ หนึ่ง ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเฉลี่ยกว่า 20,000 คน หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 2 – 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 แสนคน และในจำนวนนี้ กลายเป็นผู้พิการ 60,000 ซึ่งทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาทในการดูแล สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุบนถนนนั้น สรุปเหตุที่สำคัญ 2 ประการคือ เกิดจากการกระทำที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่ พฤติกรรมต่างๆ อันอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เช่น ความประมาท มักง่าย การฝ่าฝืนกฎระเบียบ เป็นต้น และเกิดจากสภาวะที่ไม่ปลอดภัย ได้แก่ สภาพแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ เช่น ถนนชำรุด แสงสว่างไม่เพียงพอ ทางโค้ง เป็นต้น โดยสรุปแล้วปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการเกิดอุบัติเหตุในการจราจร ได้แก่ ถนน ยานพาหนะผู้ใช้รถใช้ถนนและสิ่งแวดล้อม
ทางเจ้าหน้าที่ จร. สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ทำการประชาสัมพันธ์ป้องกันอุบัติเหตุในการจราจรทางบก จึงต้องแก้ที่สาเหตุของปัญหาดังกล่าว โดยเน้นหลัก 3 ประการคือ การให้ความรู้ เจตคติและการปฏิบัติ การควบคุมบังคับการจราจรให้เป็นไปตามกฎหมาย และการปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างด้านวิศวกรรมจราจร
1.จอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอด
ความมักง่ายของคุณมันอาจทำให้กีดขวางการสัญจรบนท้องถนนของผู้อื่น ซึ่งคุณไม่เคยนึกถึง ทั้งๆมีป้ายห้ามจอดอยู่ชัดเจนก็ตาม แต่คุณไม่สนใจว่าจะเกะกะการจราจรเพียงไร
จอดรถในเขตที่มีเครื่องหมายจราจรห้ามจอด ผิดกฎหมายจราจรตามมาตรา 57
2.เลี้ยวรถหรือเปลี่ยนช่องเดินรถโดยไม่ให้สัญญาณ
การที่บางคนหลงลืม บางคนไม่เปิดเป็นนิสัย บางคนตั้งใจไม่เปิด เพราะเคยพบกับคนอื่นที่นิสัยไร้น้ำใจ ซึ่งทำให้การเปิดไฟเลี้ยวที่น่าจะเป็น การเตือนให้ทราบหรือขอทาง แต่กลับเป็นการเตือนให้รู้ตัวและก็เร่งความเร็วมาปิดช่องว่าง หลายคนจึงไม่เปิดไฟเลี้ยว ด้วยเหตุผลสั้นๆ คือ ไม่อยากให้คนอื่นรู้ตัว ซึ่งในทางปฏิบัตินั้นควรเปิด เพราะจะได้ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น และก็คงไม่พบกับคนไร้น้ำใจกันทั้งถนน ผิดกฎหมายจราจรตามมาตรา 36
3.ขับรถแซงรถคันอื่นแล้วตัดหน้ารถคันที่ถูกแซงในระยะกระชั้นชิด
ในปีๆ หนึ่ง ไทยมีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนเฉลี่ยกว่า 20,000 คน หรือคิดเป็นชั่วโมงละ 2 – 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 1 แสนคน และในจำนวนนี้ กลายเป็นผู้พิการ 60,000 ซึ่งทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณกว่า 5 แสนล้านบาทในการดูแล)
ผู้ขับขี่บนท้องถนนควรตระหนักถึงความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัวผู้โดยสาร และผู้ร่วมใช้ทางมาเป็นอันดับแรกโดยหมั่นดูแลทั้งตนเองและตรวจสภาพรถยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
พร้อมทั้งติดตามกฎระเบียบใหม่ ๆ และเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขับรถด้วยความระมัดระวังไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนองหรือประมาทอันจะทำให้ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ พ.ต.ต.ยุทธชัย สุดเสน่ห์ สว.จร. สภ.เมืองสมุทรปราการ กล่าวทิ้งท้าย