(อ่านแล้ว 35 ครั้ง)
วันที่ 7 ตุลาคม 2567 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมี นางสาวสุพีพร โมรา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปทุมธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ โดยได้พบปะพูดคุย เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งได้รับผลกระทบจากระดับน้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในระยะนี้ รวมทั้งผลกระทบจากน้ำขึ้น-น้ำลง ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี และอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
เนื่องจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ประกาศ เฝ้าระวัง น้ำทะเลหนุนสูง ช่วงวันที่ 13 – 24 ต.ค. 2567 เนื่องจากอิทธิพลของน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับมวลน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำไหลลงมาสมทบส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เสี่ยงน้ำท่วมบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราวบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) จึงขอให้เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงจังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรสาคร นครปฐม และสมุทรสงคราม
ทั้งนี้ ในพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี ที่บริเวณชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านกระแชง มีน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำเข้าสู่พื้นที่ชุมชนสูงประมาณ 30 เซนติเมตร มีน้ำเอ่อล้นตลิ่ง และ อบต.บ้านกระแชง ได้ทำสะพานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชาวบ้านในการเดินทางเข้า -ออกในพื้นที่ โดยนางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเมืองปทุมธานี นายวีระ เจริญรอด นายก อบต.บ้านกระแชง พร้อมด้วย ทีมงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ ตำบลบ้านกระแชง อสม. และสมาชิก อส.อ.เมืองปทุมธานี ร่วมลงพื้นที่พร้อมให้กำลังใจชาวบ้าน และมอบน้ำดื่มให้แก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับในพื้นที่อำเภอสามโคก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วย นายศรัณย์ เกตุทอง นายอำเภอสามโคก นายยอด ภู่เฉลิมตระกูล นายก อบต.คลองควาย เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอสามโคก ทีมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ในพื้นที่อำเภอสามโคก ได้ร่วมลงเรือเพื่อตรวจดูสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ ตำบลคลองควาย พร้อมพูดคุยให้กำลังใจชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และผู้ป่วย โดยมีการนำข้าวสาร อาหารแห้ง ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และน้ำดื่ม มอบให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมน้ำและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ด้านนายสายชล ภู่เฉลิมตระกูล กำนันตำบลคลองควาย พร้อมทีมงานได้ลงพื้นที่ช่วยยกข้าวของช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วน นายภาสกร บุญญลักษม์ กล่าวว่า ในภาพรวมของจังหวัดปทุมธานี ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกแนวคันกั้นน้ำอาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะนี้ยังคงการระบายน้ำอยู่ที่ปริมาณ 2,200 ลบ.ม./วินาที หากไม่มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และยังคงมีการระบายน้ำในอัตราคงที่ สถานการณ์น่าจะดีขึ้น แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังในช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง ที่อาจจะมีผลกระทบต่อผู้ที่อยู่ริมน้ำ ทั้งนี้จังหวัดปทุมธานีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์หากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น พร้อมทั้งทีมแพทย์ที่พร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันที