วันที่ 19 พ.ค.2568 เวลา 08.00 น. พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา แถลงข่าวการจับกุม 2 คนร้ายตระเวนลักทรัพย์สินมีค่าของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติตามพูลวิลล่าหรู โดยเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 ได้มีผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ รวม 2 ราย เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ 1 คือ เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. Mr. Stephen Paul Jacobs สัญชาติอังกฤษ แจ้งว่าขณะพักที่บ้านเลขที่ 162/271 ม.ปาล์มสปริง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ได้ตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินสูญหาย ได้แก่ เงินสด 10,000 บาท, สมาร์ทวอช 2 เรือน, รองเท้า 2 คู่ ไม่ทราบว่าผู้ใดลักเอาไป

ต่อมาเวลาประมาณ 07.30 น. ได้มี Mr. All Asger Light สัญชาติอินเดีย แจ้งว่า ห้องพัก ม.ปาล์มสปริงวิลล่า A1 ซ.เทพประสิทธิ์ 11 ต.หนองปรือฯ ถูกคนร้ายรื้อค้น ทรัพย์สินสูญหาย ได้แก่ เงินสด 2,000 ดอลลาร์ และเสื้อกันหนาว ไม่ทราบว่าผู้ใดลักเอาไป

 ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ยังคงได้รับแจ้งความร้องทุกข์ ในลักษณะทรัพย์สินสูญหายในบ้านพักพูลวิลล่าอีกจำนวน 3 หลัง ประกอบไปด้วยดังนี้คือ บริเวณ บ้านเลขที่ 384-178 ม.ปาล์มโอเอซิส วิลเลจ ซ.เทพประสิทธิ์ 17 ต.หนองปรือฯ ทรัพย์สินที่สูญหายมี ไอแพด 1 เครื่อง กระเป๋าสตางค์สีน้ำเงินเข้ม 1 ใบ ซึ่งภายในประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ บัตรเอทีเอ็มกรุงไทย บัตรเอทีเอ็มไทยพาณิชย์ เงินสด ประมาณ 3,500 บาท และเมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 เวลาประมาณ 07.00 น. บริเวณ บ้านพักพลูวิลล่า โดโจพลูวิลล่า หมู่ 12 ซอยจอมเทียน 13 ต.หนองปรือฯ ทรัพย์สินที่สูญหายมี กระเป๋าสะพายข้าง ใบเล็ก 1 ใบ พร้อมกับผ้าถุง โดยภายในมีทรัพย์สิน เงินสด จำนวน 6000 บาทเศษ ,บัตรประจำตัวประชาชน , หมวก , แว่นตา , เครื่องสำอาง , อุปกรณ์ชาร์จพลังงาน ,อุปกรณ์สำรองไฟ  นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 68 เวลาประมาณ 09.57 น. บริเวณ บ้านเลขที่ 162/257 ม.ปาล์มสปริงส์ ซ.ทัพพระยาซอย 11 ต.หนองปรือฯ ทรัพย์สินที่สูญหายหลายรายการ 

พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา จึงเร่งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ติดตามกล้องวงจรปิด จนทราบว่า ใครเป็นผู้ที่ก่อเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านพักพูลวิลล่าดังกล่าว โดยผู้ต้องหามีลักษณะการก่อเหตุและมีพฤติกรรมคล้ายกัน กับภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมด คือเป็นภาพเป็นชาย รูปร่างท้วม จำนวน 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบออโตเมติก สีขาว หมายเลขทะเบียน จทค-683 ชลบุรี โดยมีคนซ้อนท้ายอีก 1 คน ขับขี่หลบหนีไปบริเวณถนนชัยพฤกษ์ 2 ซึ่งมีลักษณะตรงกันทุกครั้ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ทำการตรวจสอบผู้ครอบครอง รถจักรยานยนต์คันที่คนร้ายใช้หลบหนี ทราบชื่อผู้ครอบครองคือ น.ส.สายใหม ชาว ต.หินดาด อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ตรวจสอบบุคคลภายในบ้าน พบ นายอธิป เกี่ยวข้องเป็นบุตรชายของ น.ส.สายไหม ฯ ซึ่งมีลักษณะตรงกันคนร้ายที่ปรากฏอยู่ภายในภาพกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวน ติดตาม ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและออกหาข่าวภายในถนนชัยพฤกษ์ 2 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายขับขี่รถจักรยานนยนต์หลบหนีเรื่อยมา เมื่อมาถึงบริเวณ ห้องพักไม่มีเลขที่ ซ.เขามะกอก 1 ถ.ชัยพฤกษ์ 2 ต.หนองปรือฯ พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีขาว จอดอยู่ (มีลักษณะตรงกันกับรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้หลบหนี) ใกล้กัน พบนายอธิป หรือ อาร์ม นั่งอยู่บริเวณหน้าห้องพักดังกล่าว จึงแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ขอทำการตรงจสอบ แต่เมื่อนายอธิปฯ เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทางมีพิรุธ คล้ายจะวิ่งหลบหนี จึงต้องทำการปิดล้อมตามยุทธวิธี ก่อนควบคุมตัวไว้ได้

เบื้องต้น นายอธิปฯ ยอมรับว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ซึ่งตนไม่ได้มีการประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งแต่อย่างใด จากการตรวจสอบพบแผ่นป้ายทะเบียนรถ. หมายเลข จทค-683 ชลบุรี ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ

จากการสอบถามนายอธิปฯ ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์สินภายในบ้านพักพลูวิลล่าดังกล่าวจริง และให้การว่ายังมีพรรคพวกร่วมกระทำความผิดอีก 1 คน พร้อมให้การสารภาพว่ายังคงมีทรัพย์สินที่ได้จากการลักทรัพย์ ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักอีกจำนวนหนึ่ง ก่อนนำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบภายในห้องพักด้วยตนเอง จากการตรวจค้น พบของกลางและทรัพย์สินหลายรายการอาทิเช่น บัตรอิเลกทรอนิกส์ , กระเป๋าแบรนด์เนม , โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์อื่นๆ จำนวนมาก และรับว่ามีทรัพย์สินบางส่วนได้นำไปขายบ้างแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินดังกล่าวเพื่อตรวจสอบ พร้อมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.อรุษ สภานนท์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองพัทยา กล่าวว่า นอกจากนายอธิปฯ เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในพูลวิลล่าได้อีก 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ร่วมกระทำความผิด ซึ่งการจับกุมดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น และตนเองได้เร่งดำเนินการสอบสวนติดตามการจับกุมเพื่อสร้างความอบอุ่นใจ และความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว หลังจากนี้จะทำการประสานผู้เสียหายให้มาตรวจสอบทรัพย์สินที่คงเหลือเพื่อขอรับกลับคืน ส่วนเรื่องผู้ก่อเหตุได้ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด

ด้าน พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 ได้ทราบข่าวการปฏิบัติการครั้วนี้ ได้ฝากผู้บังคับบัญชาชื่นชมทีมสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ที่ทำงานเต็มที่ คลี่คลายคดีรวดเร็ว เป็นตำรวจมืออาชีพตัวจริง สมคำ นี่คือตำรวจไทยที่ประชาชนวางใจได้