เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
ย้อนรอยคดี เสก โลโซ อดีต ผกก.คันดัง ที่สั่งบุกจับเสก โลโซ พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช โพสต์เฟซบุ้ค ให้กำลังใจเสก และ พิสูจน์ตนเองในฐานะการทำงานของตำรวจอย่างตรงไปตรงมา
(อ่านแล้ว 131 ครั้ง)
Share on Google+

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ภายหลังศาลอาญามีนบุรี อัยการ โจทก์ ยื่นฟ้อง นายเสกสรร หรือเสกโลโซ ศุขพิมาย จำเลยคดีหมายเลขคดีดำ อ.1662/2561 แดง อ.8288/2561 ความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่, เสพยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490

จากกรณีนายเสกสรรค์ ยิงปืนขึ้นฟ้าโดยไม่มีเหตุอันสมควรบ้านพักหลังจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช และถูกศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชออกหมายจับ ก่อนที่ เสก โลโซ ได้เดินทางกลับมาบ้านพักย่านสุขาภิบาล5 เมื่อทราบข่าว วันที่ 31 ธันวาคม 2560 พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช ผกก.สน.คันนายาว ( ในขณะนั้น) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าล้อมจับตัว เสก โลโซ ที่บ้านพัก แต่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเสก โลโซ ขัดขืน ไม่ยอมออกจากห้องนอนพร้อมไลฟ์สด ว่ามีปืนอยู่กับตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาสูงสุดและอีหลายท่านต้องเดินมาเกลี้ยกล่อม ทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ( ผบ.ตร.ในขณะนั้น) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง และอีกหลายท่าน ในระหว่าง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง กำลังเจรจา เสก โลโซ ได้ขัดขืนและขู่หากเจ้าหน้าที่บุกเข้ามาจะใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องใช้หน่วยอรินทราชเข้าช่วยเหลือในการควบคุมตัว 

การกระทำของเสก โลโซ ในคดีนี้ อัยการโจทก์ฟ้องว่าจำเลยมีอาวุธปืนพกออโตเมติกซึ่งมีทะเบียนพร้อมกระสุนปืนและต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยมีหรือใช้อาวุธปืนและเสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ก่อนคดีนี้จำเลยเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดของศาลอาญาให้ลงโทษ แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี

จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้อีกและจำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีอาญาของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชขอให้ลงโทษบวกโทษและนับโทษต่อจำเลยให้การรับสารภาพฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้ใบอนุญาตส่วนความผิดอื่นในการปฏิเสธ แต่รับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยที่โจทก์ขอให้บวกโทษและนับโทษต่อ

คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2561 พิพากษาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาเสพติด จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 18 เดือน และให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน โดยไม่รอการลงโทษ แม้ว่าจำเลยอ้างป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิด เนื่องจากเห็นว่าจากพฤติการณ์การสื่อสารกับเจ้าหน้าที่พบว่าจำเลยรู้ผิดชอบดี จึงไม่อาจอ้างภาวะป่วยดังกล่าวได้ การกระทำของจำเลยนั้นไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย

ต่อมาวันที่ 7 พ.ค. 2563 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานมีอาวุธปืนซึ่งเป็นของผู้อื่นที่ได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมายและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 5 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 เดือน ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดง ที่ อ.3705/2559 ของศาลอาญาเข้ากับโทษของจำเลยในคดีนี้ เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งจำเลยได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา โดยศาลตีราคาประกัน 600,000 บาท

โดยศาลฎีกาพิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุก 2 ปี 12 เดือน 20 วัน  ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้ว หลังจากนั้น วันที่ 20 พ.ค.2568 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวนายเสกสรรค์ไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรี เพื่อรับโทษตามคำพิพากษา

ล่าสุด 21 พ.ค. 2568 พ.ต.อ.สิงห์ สิงห์เดช รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ( ผกก.สน.คันนายาว ในขณะนั้น) ได้โพสต์เฟซบุ้คส่วนตัว ให้กำลังใจว่า เจ็ดปีผ่านไป ยังจำฝังใจเพราะภาพรูปเดียวทำให้เราถูกย้าย วันนี้คดีถึงที่สุดแล้ว ก็พิสูจน์ได้ว่าผมทำคดีอย่างตรงไปตรงมา แม้ว่าเราจะรู้จักกันก็ขอให้กำลังใจพี่เสก โลโซ อีกไม่นานได้กลับมาเล่นดนตรีให้พวกเราได้ฟังครับ

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ