เว็บข่าวสร้างสรรค์สังคม เทิดทูนสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของข่าวทั่วไป ข่าวสังคม ข่าวท้องถิ่น ร้านอาหารอร่อย และยังรับออกแบบ จัดงานอีเวนท์ ทุกประเภท รับงานออกสื่อออนไลน์ และสื่อหลักทั้งหนังสือพิมพ์และทีวี
วันเสาร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567
สาวใหญ่ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก สูญเงินเกลี้ยงกว่า 1 ล้านบาท เปิดใจขายบ้านเก็บเงินออมหวังกลับมาดูแลพ่อแม่ชรา
(อ่านแล้ว 143 ครั้ง)
Share on Google+

 

ผู้สื่อข่าวติดตามกรณีแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์โทรหลอกสาวใหญ่เชียงราย ว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร หลอกตรวจสอบบัญชีจากการขายก๋วยเตี๋ยว เพียงไม่กี่นาทีเงินในบัญชีถูกโอนออกเกลี้ยงบัญชี 1.09 ล้านบาท ไปแจ้งความแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า สอบถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง แถมถูกต่อว่าให้เสียความรู้สึก ธนาคารฯก็โยนกันไปมา

ช่วงบ่ายผู้สื่อข่าวลงพื้นที่และเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 140 บ้านตุ้มใต้ ม.9  ต.งิ้ว อ.เทิง จ.เชียงราย อีกครั้ง หลังจากทราบว่า ผู้เสียหายได้เดินทางกลับมาจาก กทม.หลังจากไปพบทนายรณรงค์  แก้วเพ็ชร (เมื่อวันที่ 10 ม.ค.66 ) เพื่อเข้าร้องทุกข์กับทนายคนดังเพื่อให้ติดตามกรณี ที่นางโชติวรรณ มุงเมือง อายุ 45 ปี ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงเมื่อพร้อมกับอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่สรรพกรฯ โดยก่อนหน้านั้นตนได้ไปทำงานโรงงานในโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ต่อมาได้ตั้งครรภ์ก็เลยลาออกมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เก็บหอมรอมริบ ได้เงินมาส่วนหนึ่งและได้ซื้อบ้านไว้ 1 หลัง ต่อมาจึงได้ขายบ้านพร้อมกับรวมกับเงินที่สะสมไว้รวมแล้วประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ต่อมาเมื่อก่อนหน้านี้ประมาณ 1 ปี ก็กลับมาอยู่ที่บ้าน เพราะต้องการจะมาดูแลพ่อกับแม่ที่มีอายุมากแล้ว เมื่อมาอยู่บ้านก็มาทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกผัก ปลูกพริก ดอกอัญชัญ และเลี้ยงไก่ เพื่อขายหารายได้ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมาเงินจำนวนหนึ่งที่ฝากธนาคารไว้จำนวน 1.09 ล้านบาทที่ฝากไว้ในบัญชีธนาคารได้ถูกโอนออกไปเกือบทั้งหมดเหลืออยู่ในบัญชีเพียง 700 บาทเท่านั้น  พร้อมกับได้นำความเข้าไปแจ้งไว้ที่ สภ.เทิง และไปติดต่อธนาคาร แต่เรื่องยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด เมื่อสอบถามไปยังเจ้าของคดีที่รับเรื่องร้องเรียนไป ก็จะถูกต่อว่ามาหลายครั้ง สอบถามไปยังธนาคารก็ก็โยนกันไปโยนกันมา ผ่านมาได้ระยะ 1 เดือน ตนจึงพยามติดต่อหาหน่วยงานต่างๆ กระทั่งได้ดูรายการทีวีดังช่องหนึ่ง(ช่อง 3 ) รายการของคุณหนุ่มกรรชัย จึงได้จดหมายเลขโทรศัพย์ของทนายท่านดังกล่าวพร้อมกับได้โทรไปเล่าเหตุการให้ทราบจนเป็นที่มาของการเดินทางไปพบและได้กลับมาบ้านในช่วงบ่ายของวันนี้

 

 

นางโชติวรรณ มุงเมือง ผู้เสียหายได้เล่าเหตุการณ์ว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้โทรติดต่อมาที่เบอร์โทรของตน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 65 เวลา 18.18 น. โดยบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสรรพากร โดยมาสอบถามเรื่องที่เคยเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวและเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง โดยบุคคลที่โทรมาได้แนะนำให้แอดไลน์เพื่อคุยเกี่ยวกับการยกเลิกโครงการคนละครึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีย้อนหลัง จากนั้นคนที่ติดต่อได้ให้แอดเพื่อคุยกันทางไลน์ เพื่อพูดคุยพร้อมกับคนร้ายได้ส่งลิ้งค์ เมื่อตนได้กดเข้าไปก็ปรากฏว่าเครื่องโทรศัพท์เกิดค้าง กดอะไรไม่ได้เลย หลังจากพูดคุยกันเสร็จ ตนมารู้อีกทีว่าเงินที่ฝากไว้ในธนาคารหายไปเกือบหมดเกลี้ยงทั้งบัญชี เป็นเงิน 1,090,000 บาท (หนึ่งล้านเก้าหมื่นบาทถ้วน) เหลือติดค้างไว้เพียง 700 บาทเท่านนั้น ตนจึงมั่นใจว่าโดนแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอก โอนเงินไปจึงได้เล่าเหตุการให้พ่อกับแม่ว่าเงินหายไปจากบัญชีธนาคาร จึงได้พากันไปแจ้งความดังกล่าว พร้อมกับพยายามประสานไปทุกช่องทาง ที่พอนึกออกเพื่อขอความช่วยเหลือ รวมถึงร้องทุกข์ไปถึงทนายรณรงค์ แก้วเพชร เพราะเห็นข่าวว่าเคยช่วยทำคดีออกสื่อบ่อย จากนั้นทนายจึงพาประสานสื่อมวลชนตามที่ปรากฏเป็นข่าว เนื่องจากคดียังไม่มีความคืบหน้า หน้าฟ้องร้องธนาคารในฐานะผู้ดูแลเงินอีกด้วย

หลังจากที่ตนกลับมาจาก จ.สมุทรปราการณ์ จึงได้มาทำไร่ทำนาสวนผสมปลูกผักสวนครัวเลี้ยงไก่เลี้ยงปลา ถึงตอนนี้ตนไม่มีเงินเหลืออีกแล้ว ส่วนการทำไร่นาเมื่อไม่มีเงินที่จะนำไปต่อยอดก็คงค้างไว้ก่อน เนื่องจากขณะนี้ตนก็ไม่มีอะไรที่จะสูญเสียแล้วจึงอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อไป และตนเองก็อยากจะฝากบอกไปยังผู้ที่เคยถูกหลอกอีกหลายคนที่ไม่รู้ช่องทางเรียกร้องอยากให้ออกมาช่วยกันหาแนวทาง ตนทราบว่ามีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ว่าจะหาช่องทางไหนให้มาหาตนเพื่อจะได้ช่วยกันแฉกลโกงของพวกมิจฉาชีพที่หากินด้วยวิธีสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

วินัย เชียงราย ภาพ -ข่าว

 

Share on Google+
เศรษฐกิจในประเทศ