วันที่ 3 ส.ค. 66 เวลา 13.37 น. พ.ต.ท.กิตติพงษ์ ศรีโท สว.สส. ร.ต.อ.เสรี ธิโนชัย รอง สว.สส. ร.ต.ท.เกษม ธิสอน รอง สว.(ป.) พร้อมชุดจับกุม ได้ติดตามจับกุมนายพงษ์ศักดิ์ ชาวเขาพระ หรือ ตั้ม อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 58/1 ม.10 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดเทิง ที่ จ.75/2566 ลว.27 ก.ค. 66 ในข้อหาพยายามฆ่า และบุกรุกในยามวิกาล เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 95/1 ม.10 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 25 ก.ค. 66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทิง ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธมีดแทงกันได้รับบาดเจ็บ บริเวณบ้านเลขที่ 95/1 หมู่ที่ 10 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ที่เกิดเหตุ เมื่อได้รับแจ้งจึงได้ร่วมกันทำออกตรวจ พบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บชื่อนายชำนิ สายใจ ผู้เสียหาย อายุ 36 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ และผู้ก่อเหตุคือนายพงษ์ศักดิ์ ชาวเขาพระ หรือ ตั้ม ผู้ต้องหา ภายหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป

ตำรวจสภ.เทิง จึงได้ออกสืบสวนสอบสวน จนทราบว่าผู้ต้องหาได้ไปหลบซ่อนตัว บริเวณบ้านเลขที่ 118 บ้านปล้องใต้ ม.7 ต.ปล้อง อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านแฟนสาวของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้ร่วมกันออกไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงได้พบผู้ต้องหา นอนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น ทันทีที่ผู้ต้องหาเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามจะหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบหมายจับและตำหนิรูปพรรณ ของผู้ต้องหาพร้อมรูปถ่าย ซึ่งตรงกับที่ศาลจังหวัดเทิงได้ออกหมายจับเอาไว้ จึงได้แสดงหมายจับและแจ้งรายละเอียดข้อเท็จจริงในหมายจับให้กับผู้ต้องหาทราบแล้ว ผู้ต้องหาทราบแล้วว่าตนเองเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง จึงให้ลงลายมือชื่อในหมายจับเพื่อรับรองความถูกต้อง จึงได้แจ้งให้ผู้ต้องหาทราบว่าจะต้องถูกจับ ตามหมายจับในความผิด 1.ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น 2.บุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นหรือเข้าไปกระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุขโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน

ผู้ต้องหาขอให้การในชั้นจับกุมว่า เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ผู้ต้องหาไปที่บ้านของนายชำนิซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เพื่อไปขอยืมรถเข็น แต่เนื่องจากนายชำนิพูดจาไม่เพราะ ทำให้ผู้ต้องหาอารมณ์ร้อนแล้วได้กลับมาที่บ้าน ไปหยิบเอามีดจำนวน 2 เล่ม ที่อยู่ในห้องครัว แล้วได้นำติดตัวไปที่บ้านของนายชำนิ ไปพบนายชำนิกำลังทำกับข้าวอยู่ภายในบ้าน ผู้ต้องหาจึงเข้าไปเพื่อใช้อาวุธมีดแทง แต่นายชำนิได้พยายามป้องกันตัวโดยใช้เท้าถีบบริเวณหน้าท้องของผู้ต้องหาไป 1 ครั้ง จากนั้นผู้ต้องหาซึ่งนำอาวุธมีดติดตัวไป 2 เล่ม จึงได้ปล่อยมีดที่ถือทางด้านขวามือลงกับพื้นแล้วเข้าไปหาผู้ต้องหา โดยใช้มือขวาดันที่บริเวณหน้าอกของนายชำนิ แล้วได้ใช้มือข้างซ้ายแทงไปบริเวณสีข้างด้านซ้ายของนายชำนิไป 1 ครั้ง จากนั้นได้ดึงมีดออกมา แล้วพูดว่า "คิงต๋ายเหียบะ" แล้วได้ใช้อาวุธมีดแทงซ้ำไปบริเวณหน้าท้องของนายชำนิอีกเป็นครั้งที่ 2 แล้วดึงมีดออกมา ภายหลังเกิดเหตุได้วิ่งออกมาจากที่เกิดเหตุนำอาวุธมีดไปทิ้งถังขยะที่หน้าบ้านของผู้ต้องหา แล้วไปนำเอารถจักรยานยนต์ของผู้ต้องหา ขับหลบหนีไป และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมได้ในที่สุด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจค้นตัวผู้ต้องหา แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย จึงได้ตรวจค้นบริเวณที่นอนของผู้ต้องหา พบของกลางยาบ้าจำนวน 20 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีขาว กระดาษมวนบุหรี่ ตรากระทิงศรีสยามชนิดรูดปิด-เปิด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋ากระสอบฟางสีเขียวแบบสะพาย วางอยู่บนที่นอนที่ผู้ต้องหานอนอยู่ และผู้ต้องหารับว่ายาเสพติด (ยาบ้า) ดังกล่าวเป็นของตนเองจริง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม “มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่าได้เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้ จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะในเบื้องต้นพบสารเสพติดในปัสสาวะ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวอย่างน้ำปัสสาวะไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.เทิง เพื่อยืนยันผล ผลการตรวจพบสารเสพติดประเภทเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ผู้ต้องหาให้ทราบว่า “เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”อีกข้อกล่าวหาหนึ่ง ผู้ถูกจับให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลาง นำส่ง พงส.สภ.เทิง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป