เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ภายใต้การนำของ ฯพณฯ ฮุน ซาเรือน (H.E.Hun Saroeun) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ประจำราชอาณาจักรไทย ท่านเจ้าสัว(Oknha Leng Bros) ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท นวตรา ขนาดยักษ์(Navattra Khnatyeak) ผู้บริหารของบริษัท "สราลันห์เนค" ทีมงานกัมพูชา-ไทย ตลอดจนแขกผู้มีเกียรติมากมาย

นาย เบือน เฮง(Hang Beourn) ผู้บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท สราลันห์ เนค กล่าวว่า "บริษัท สราลันห์ เนค จำกัด" ได้รับการจดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกระทรวงพาณิชย์ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประตูน้ำเพชรบุรี ถนน 15 บริษัทยังจดทะเบียนอย่างเป็นทางการกับกระทรวงพาณิชย์กัมพูชาเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 รวมมูลค่าการลงทุนประมาณ 20 ล้านบาท (6แสน ดลอล่าร์สหรัฐ)

“บริษัทมีพันธกิจที่จะมุ่งเน้นการให้บริการขนส่งสินค้าที่หลากหลายจากประเทศไทยไปยังกัมพูชาและจากกัมพูชาไปยังประเทศไทยด้วยความมั่นใจ คุณภาพ การบริการที่รวดเร็วในการขนส่งและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าตลอด” เขากล่าว เมืองหลวงของจังหวัดทั่วประเทศกัมพูชา

ในโอกาสนี้ ออกยา เลง โปรส(Leng Bros) ประธานผู้บริหารบริษัท นวตรา ขนาดยักษ์ ยังแสดงความมั่นใจว่าบริษัทจะเติบโตและเป็นประโยชน์ต่อคนไทย-กัมพูชาที่ต้องการขนส่งสินค้าไปกัมพูชา - ประเทศไทย ด้วยราคาและคุณภาพที่สมเหตุสมผลโดยคำนึงถึงความรัก ของทรัพย์สินหรือสินค้าของลูกค้าที่ส่งมาทางรถยนต์ของบริษัท “สราลันห์เนค”

หลังจากถือกรรไกรตัดริบบิ้นเปิดตัวบริษัทขนส่ง “สราลันห์เนค” ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ฯพณฯ ท่านฮุน ซาเรือน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย ได้แสดงความยินดีและชื่นชมการเปิดตัว “บริษัท สราลันห์เนค” อย่างเป็นทางการ ณ งานนี้เป็นความร่วมมือด้านการลงทุนระหว่างกัมพูชา และนักลงทุนไทยเพื่อส่งเสริมภาคการขนส่งของทั้งสองประเทศ สอดคล้องกับการประกาศยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศให้เป็น “หุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์การตลาด”

ฯพณฯ กล่าวว่าชื่อบริษัท “สราลันห์เนค” มีความน่าสนใจและมีความหมายลึกซึ้งในการแสดงบริการของบริษัทแก่ลูกค้าที่มารับบริการ โดยในการเปิดตัวครั้งนี้ ฯพณฯ แสดงความมั่นใจว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจและน่าภาคภูมิใจสำหรับคณะกรรมการบริหารตลอดจนทั้งสองประเทศที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่างนักลงทุนชาวกัมพูชา และประเทศไทย

เขากล่าวเสริมว่าการเปิดบริษัทขนส่ง “สราลันห์เนค” ถือเป็นสถานการณ์ที่ดีมากเมื่อความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศดีขึ้นกว่าเดิมโดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับรัฐบาลทั้งสองในการส่งเสริมภาคการขนส่ง การคมนาคม และการท่องเที่ยวระหว่างทั้งสองประเทศ ระหว่างคนกับคนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้นโดยทางคมนาคมของบริษัท

นอกจากนี้ ฯพณฯ เน้นย้ำว่าภาคการขนส่งยังมีส่วนช่วยอย่างมากต่อนโยบายของรัฐบาลทั้งสองซึ่งตั้งเป้าหมายร่วมกันในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกัมพูชาและไทยเป็น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2568